
โจ โกเมซต้องตัดสินใจในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะตัดสินใจสู้ต่อเพื่อแย่งตำแหน่งในทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ หลังการบาดเจ็บเข่าที่ทำให้เขาต้องพักยาว และตอนนี้มันเป็นสิ่งที่เขาพอใจกับการลงสนาม 4 นัดตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่ผ่านมา
กองหลังวัย 20 ปี ที่เป็นตัวจริง 2 นัด และตัวสำรอง 2 นัดจนถึงเวลานี้กล่าวกับลิเวอร์พูลเอ็คโค่ว่า โดยธรรมชาติแล้ว การยืมตัวจะเป็นทางเลือกของช่วงซัมเมอร์นี้
ทุกๆ คนเข้าใจในเรื่องนี้ว่า ผมไม่ได้ลงเล่นมากนักในฤดูกาลที่แล้ว แต่ผมพูดไว้ในช่วงปรีซีซั่นว่า ผมอยากจะสู้
ไม่มีอะไรที่ผมอยากทำมากกว่าลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล ผมจะเลือกตัวเลือกนี้ตลอด คุณต้องหวังว่าจะได้โอกาส
เมื่อผู้จัดการทีมบอกว่า เขาอยากให้ผมอยู่ที่นี่ และแย่งตำแหน่ง มันเป็นเรื่องเยี่ยมที่ได้ยินแบบนี้ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ผมต้องการจะทำด้วยเช่นกัน
โกเมซได้โอกาสจำกัดในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่แล้ว หลังจากคล็อปป์ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเพิ่มกล้ามเนื้อบางอย่างมากไประหว่างฟื้นฟูร่างกาย และทำให้เสียความคล่องตัว ซึ่งกองหลังดาวรุ่งยอมรับเสียงวิจารณ์ และปรับปรุงแก้ไขมัน
ตอนคุณทำกายภาพ คุณอยากทำทุกอย่างที่คุณทำได้ โกเมซกล่าวเสริม
ทุกอย่างที่คุณทำได้จริงๆ คือ เพิ่มความแข็งแกร่งในร่างกายของคุณ คุณกังวล มันอยู่ในหัวของคุณว่า ผมไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก
ผมอยากทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บในอนาคต ผมไม่ต้องการเสียเวลาซึมเศร้า และรู้สึกผิดหวังตัวเอง
แต่ผู้จัดการทีมอยากให้ผมหยุดเพิ่มกล้ามในร่างกายส่วนบน เขาเป็นคนที่ดูเราฝึกซ้อม และวิเคราะห์เรา ยิ่งคุณตัวใหญ่ คุณจะมีพลังขึ้น แต่ในเรื่องความคล่องตัวมันอาจจะส่งผลได้
สิ่งที่สำคัญคือ พลัง และความแข็งแกร่งมากพอเท่าที่จำเป็น ประเด็นหลักคือ การเคลื่อนที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเล่นฟูลแบ็ก มันเป็นเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องขึ้นๆ ลงๆ
มันเป็นแง่บวกในเรื่องที่ผมสามารถปรับตัวได้ ปรีซีซั่นครั้งนี้รู้สึกราวกับเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับผม
อดีตดาวรุ่งชาร์ลตันเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ ยู-21 ต้นสัปดาห์ และมันช่วยกระตุ้นกำลังใจในการเล่นฟุตบอลของเขาเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านั้น ตอนที่ผมลงสนาม ผมไม่ได้คิดถึงมันมากนัก เขากล่าว
แต่เมื่อคุณได้รับการบาดเจ็บรุนแรง และมันหายไป คุณจะตระหนักถึงสิ่งที่คุณมี
เมื่อคุณต้องพักจากการบาดเจ็บ คุณมีเวลามากมายให้คิด มีเวลาเยอะมากที่ผมนั่งคิดถึงเรื่องนี้
ความทรงจำเหล่านี้ ทำให้ผมกระหาย และมุ่งมั่นจะกลับมา นั่นเป็นสิ่งที่ผลักดันผมจริงๆ
ไม่เพียงแต่กลับมาในฤดูกาลที่แล้ว แต่เช่นกันกับการทำงานในช่วงปิดฤดูกาลในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อทำให้แน่ใจว่า ผมสามารถก้าวไปข้างหน้าจริงๆ ผมรู้เสมอว่า จะต้องใช้เวลาที่จะกลับไปในจุดที่ผมเคยอยู่ก่อนการบาดเจ็บ