เจอร์เก้น คล็อปป์ แสดงความผิดหวัง หลังจากลิเวอร์พูลตกรอบคาราบาว คัพ ในค่ำคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า ความผิดพลาดในแนวรับส่งผลเสียต่อทีมของเขาจนตกรอบที่คิง เพาเวอร์ สเตเดียม แม้ว่าทีมจะสร้างโอกาสได้ดีกว่าในครึ่งแรกก็ตาม
และนี่คือ ประมวลบทสัมภาษณ์หลังเกมถึงสิ่งที่ผู้จัดการทีมพูด...

พูดถึงปฏิกิริยาของเขาจากเกมนี้...

เรื่องราวในเกมนี้อธิบายได้ง่ายจริงๆ เราดีกว่ามากในครึ่งแรก เราเล่นฟุตบอลได้ดี ดีจริงๆ แต่ยิงประตูไม่ได้ บางครั้งนี่คือ ส่วนหนึ่งของเกมฟุตบอล เราโชคร้ายจังหวะสองจังหวะ อาจจะไม่เด็ดขาดพอในอีกจังหวะ

แต่ตราบเท่าที่เราเสียประตูอย่างที่เราเสียในวันนี้อีก มันก็เป็นเรื่องยากมาก เราน่าจะยิงได้ 3 ประตู แต่ตราบเท่าที่คุณปล่อยให้เกมเปิด คุณต้องมีการตั้งรับ คุณต้องพยายามตั้งรับในจังหวะเหล่านี้ให้ดีขึ้น

(ประตูแรกมาจาก) บอลจังหวะสองหลังลูกเตะมุมตามความคิดของผม... มันเกือบ แต่มันไม่ใช่ลูกล้ำหน้า เกือบจริงๆ ดังนั้นเราต้องทำให้ชัดเจนมากกว่านี้ว่า มันเป็นลูกล้ำหน้า และสิ่งเดียวที่คุณสามารถทำได้คือ ดันขึ้น คุณไม่สามารถตั้งรับตลอดไปแบบที่เราทำในเกมกับอาร์เซนอล และ(เริ่ม)โต้กลับหรืออะไรก็ตาม

เราต้องดันขึ้น หรือไม่ทำ ประตูที่สองเป็นหนึ่งในลูกทุ่มเข้ามาอีกครั้ง และทุกคนสามารถนึกภาพได้ว่าเรารู้วิธีจะป้องกันลูกเหล่านี้ แต่แน่นอนว่า เราไม่ได้ทำมัน มันไม่ได้รู้สึกดีเลย แต่มันคือความจริงที่เรายังเป็นทีมฟุตบอลที่ดี

ผมเข้าใจมัน แต่โชคร้ายมันไม่ได้รู้สึกถึงมันในช่วงเวลานี้ เพราะว่าเราตกรอบฟุตบอลถ้วย เราต้องการผ่านเข้ารอบต่อไป ไม่มีใครสนใจว่าใครเล่นฟุตบอลได้ดีกว่าในครึ่งแรก ทุกคนสนใจว่าใครจะผ่านเข้ารอบ และเราไม่ใช่ทีมที่อยู่ในรอบต่อไปซึ่งเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด

เกี่ยวกับว่านักเตะลิเวอร์พูลใจเสีย หลังจากเสียประตูแรกให้เลสเตอร์ไปหรือไม่...

หลังจากประตูแรกคุณได้เห็นนักเตะเลสเตอร์คึกขึ้นมาทันที ซึ่งนั่นเป็นความแตกต่างอย่างมาก มันเป็นการพลิกเกมในช่วงเวลาแบบนี้ คุณมักจะมีโอกาสทำมันด้วยตัวเอง หรือบาทีคุณอยู่ในฝั่งที่ผิดพลาด และนั่นคือวิถีทางที่มันเป็น เราเสียประตูอย่างนี้ นั่นทำให้ผมรู้สึกเพลียจริงๆ นี่เป็นเรื่องยาก

ปฏิกิริยาที่แสดงออกหลังจากนั้น คุณเห็นทีมอายุน้อย เราเล่นหนึ่ง-สองทางฝั่งซ้ายตอนสกอร์ 2-0 และหลังจากนั้น (เลสเตอร์) ก็โต้กลับได้

นี่คือ ความผิดพลาดที่ผมสามารถยอมรับได้ เพราะเด็กสองคน (วู้ดเบิร์นกับโซลันเค่) รวมกันแล้ว (อายุรวมกัน)ราวๆ 34 ปี เรามีปัญหากับเรื่องนี้ และตอนนี้เราเจอกันสองหรือสามเท่า และหลังจากนั้นก็กับลูกทุ่ม

เกี่ยวกับการเปลี่ยนฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ออกในช่วงพักครึ่ง...

นั่นคือ แผนการก่อนเกม เขาต้องการเวลาลงเล่นในสนาม แต่มันไม่ใช่แผนสอง(ที่จะให้เขาลงเล่นต่อ) และมันไม่อาจจะปล่อยให้เขาลงเล่นอีก 90 นาที หรือ 60 หรือ 70 หรือ 80 หรืออะไรแบบนี้ มันชัดเจนว่า 45 คือ ขีดสุด เราต้องการทำให้เขาฟิต แต่เราไม่สามารถผลักดันให้เขาลงเล่นไปตลอด นั่นคือทั้งหมด

เกี่ยวกับว่าเจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ‘ทำตามโปรแกรม’ ที่เขาจะเรียกความฟิตเต็มร้อยกลับมา...

ใช่ อย่างแน่นอน ราวๆ 80 (นาที) ในช่วงสุดสัปดาห์ และหลังจากนั้น 45 ในวันนี้

เกี่ยวกับการแก้ไขเกมรับมากขึ้นในการฝึกซ้อม...

เราทำมันอยู่ตลอดเวลา การตั้งรับเป็นเรื่องที่แตกต่าง มันเป็นการตั้งรับด้วยกันตามปกติ และมันเป็นการตั้งรับส่วนบุคคล มันคือ สถานการณ์ตัวต่อตัว หรือสองต่อหนึ่ง... ผมไม่คิดว่า หลายๆ ทีมได้ยิงใส่เราเยอะนัก ผมรู้ว่าพวกเขาทำไม่ได้ พวกเขาไม่ได้มีจังหวะจบสกอร์มากมายนัก

เราตั้งรับได้ดีจริงๆ ในหลายๆ จังหวะ อย่างที่ทุกๆ คนสามารถจินตนาการได้ เรารู้วิธีการตั้งรับลูกตั้งเตะ ลูกทุ่ม และหลังจากนั้นคุณเปลี่ยนแปลงสองสามจังหวะ และหลังจากนั้นในตอนท้าย ชัดเจนว่ามันไม่เวิร์ก ผมลงเรือลำนี้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะบอกว่า ‘ผมจะบอกคุณว่าผมไม่รู้’

ผมรู้สึกแย่จริงๆ ในช่วงเวลาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชัดเจนว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับการไม่รู้ว่าจะทำมันยังไงในจังหวะเหล่านี้ มันเป็นเรื่องยากในช่วงเวลานี้ มันเป็นความรู้สึกที่ยากในช่วงเวลานี้ที่เราตกรอบ เพราะฟอร์มแบบนี้ที่เราแสดงออกมาในครึ่งแรก

แต่เรามี เราต้องเล่นได้อย่างนี้ เราสามารถทำได้ เราสร้างโอกาส 7-8 ครั้ง และเรายังสามารถเล่นฟุตบอลได้ดี นี่แหล่ะเจ๋ง เป็นเรื่องดีๆๆ แต่ตราบใด ที่เสียประตู มันทำให้ชีวิตอยากขึ้นจริงๆ

พูดถึงการกลับมาที่คิง เพาเวอร์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้...

ผมจะยังรู้สึกเพลียตอนที่กลับมาที่นี่ในวันเสาร์หรือไม่? โชคร้ายผมแพ้เกมเยอะแยะมากมายกว่านี้ในชีวิต และเชื่อผมหรือไม่ พรุ่งนี้เช้าผมจะรู้สึกสบายดี ใช่เราจะต้องกลับมา และก่อนเกมแน่ใจได้ว่า ผมจะอยู่ในสภาพที่ดีกว่าที่เป็นในตอนนี้

ผู้เขียน จินตะปัญญา อะตะมะ