
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เกือบจะเป็นพระเอกในค่ำคืนนี้เสียแล้วหลังพังประตูที่10ขึ้นนำดาวซัลโวพา "หงส์แดง" นำไปก่อนแต่มาเจอทีเด็ดของ วิลเลี่ยน ซูเปอร์ซับของ "สิงห์บลูส์" ที่ลงมาตีเสมอ 1-1 จบด้วยการแบ่งแต้มกันไปแบบสุดมัน ทำให้ลิเวอร์พูลชวดแซงไก่ขึ้นท็อปโฟร์รั้งอันดับ 5 ส่วน เชลซี อยู่ที่ 3 เหมือนเดิม เกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2560
ลิเวอร์พูล 1 - เชลซี 1
เกมบิ๊กแมตช์คู่ปิดท้ายวันเสาร์ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านต้อนรับเชลซีหลังเสียท่าบุกไปโดนเซบีย่าตีเสมอแบบสุดช็อก 3-3 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดกลางสัปดาห์ ขณะที่แชมป์พรีเมียร์ลีกบุกไปอัดคาราบัก 4-0
ADVERTISEMENT
นัดนี้เจ้าบ้านปรับโผตัวจริงจากเกมมิดวีกมากถึงห้าตำแหน่ง โดยส่ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ออกสตาร์ต และได้ โฌแอล มาติป หายเดี้ยงกลับมา ขณะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ ได้พักอยู่ในซุ้มข้างสนามร่วมกับ อดัม ลัลลาน่า ที่ฟิตสมบูรณ์แล้ว
นอกจากนี้ เจมส์ มิลเนอร์ ก็เสียบแทน จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ในตำแหน่งตัวจริงเช่นเดียวกับ ซิมง มิโญเล่ต์ ที่ได้เฝ้าเสาแทน ลอริส คาริอุส
ด้านทีมเยือนสลับโผอื้อซ่ามากพอกันให้ เชส ฟาเบรกาส, เปโดร, วิลเลี่ยน, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ ดาวิด ลุยซ์ หล่นไปนั่งเป็นตัวสำรอง โดยส่ง อันเดรียส คริสเตนเซ่น กับ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ลงสนาม ขณะที่ วิคเตอร์ โมเสส สลัดอาการบาดเจ็บทิ้งได้สำเร็จแล้วโดยมีชื่อเป็นตัวสำรอง
เกมในช่วงต้นต่างก็ยังทำอะไรกันไม่ถนัดแม้จะพยายามเดินหน้าด้วยกันทั้งสองฝ่าย กระทั่งนาทีที่ 20 สิงห์บลูส์ก็ได้เสียวก่อนเมื่อ เอแด็น อาซาร์ ได้ลูกจ่ายทะลุขึ้นกราบซ้ายแล้วกระชากตัดเข้ามาส่องริมเขตโทษ แต่ถูกมิโญเล่ต์ปัดพ้นเสาแรกได้
ทีมเมืองหลวงคึกคักทันที และอีกสามนาทีต่อมาจากการต่อบอลกันอันตราย ดริงค์วอเตอร์ก็หลุดเข้าเขตโทษ แต่ก่อนสับไกโดนมิโญเล่ต์ออกมาบล็อกได้แบบเฉียดฉิว
อึดใจต่อมา เป็นโอกาสของอาคันตุกะอีกเมื่อ ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า พาบอลบุกขึ้นมาทางขวาเองก่อนเข่นจาก 20 หลาถูกมิโญเล่ต์ปัดหลุดเสาแรกได้อีกครั้ง
กระทั่งนาทีที่ 41 แฟนหงส์ก็ได้ฮือฮาเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลได้แถวริมเขตโทษด้านขวาแล้วพลิกหนี แกรี่ เคฮิลล์ ก่อนยิงปั่นโค้งส่งบอลถากเสาไกลไปไม่เยอะ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังผลัดกันรุกรับสนุกเช่นเคย กระทั่งนาทีที่ 63 เจ้าบ้านก็น่าจะออกนำอย่างยิ่งเมื่อซาลาห์จิ้มบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้สเตอร์ริดจ์กระทุ้งอย่างถนัดถนี่ แต่เซซาร์ อัซปิลิกวยต้าแหย่ขาเข้าสกัดออกนอกกรอบได้อย่างเหลือเชื่อ
ถึงกระนั้น อีกสองนาทีต่อมา แฟนบอลเร้ด แมชีนก็ได้กระโดดตัวลอยจากจังหวะทำชิ่งสั้นโดยคูตี้ไหลบอลมาหน้าเขตโทษแล้วติเยมูเอ้ บากาโยโก้ดักบอลหลุดเท้า อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลนเลยจิ้มต่อให้ซาลาห์ปราดเข้าซัดสิบหลาไม่พลาด พาลิเวอร์พูลนำ 1-0 ก่อนจะเปลี่ยนสเตอร์ริดจ์ออกทันทีให้จอร์จินโย่ ไวนัลดุมลงเล่นแทน
เชลซีแก้เกมในนาทีที่ 74 โดยส่งเชส ฟาเบรกาสลงไปแทนดริงค์วอเตอร์ และตามด้วยเปโดรที่ได้บู๊แทนบากาโยโก้ในนาทีที่ 77
อย่างไรก็ดี นาที 85 สิงห์บลูส์มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จนได้ หลัง วิลเลี่ยน ตัวสำรองที่เพิ่งลงมากึ่งยิงกึ่งผ่านบอลลอยโด่งข้ามหัว ซิมง มินโญเลต์ เข้าไป
จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 1-1 แบบสนุก แบ่งแต้มกันไปทำให้ "หงส์แดง" ยังรั้งอันดับ 5 ตามหลังเชลซีที่อยู่อันดับ 3 อยู่สามคะแนนเหมือนเดิม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์ , โจ โกเมซ , โจเอล มาติ๊ป , รักนาร์ คลาวาน , อัลเบร์โต้ โมเรโน่ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , เจมส์ มิลเนอร์ , ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (อดัม ลัลลาน่า น.89) , อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน (ซาดิโอ มาเน่ น.89) , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (จอร์จินโย่ ไวนัลดุม น.66)
สำรอง : ลอริส คริอุส , เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
เชลซี : ติโบ กูร์กตัวส์ , เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , อันเดรียส คริสเตนเซ่น , แกรี่ เคฮิลล์ , ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า (วิลเลี่ยน น.83) , แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ (เชส ฟาเบรกาส น.74) , เอ็นโกโล่ ก็องเต้ , มาร์กอส อลอนโซ่ , เอแด็น อาซาร์ , อัลบาโร่ โมราต้า , ติเยมูเอ้ บากาโยโก้ (เปโดร น.77)
สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่ , ดาวิด ลุยซ์ , อันโตนิโอ รือดิเกอร์ , วิคเตอร์ โมเสส
ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์