
แกรม ซูเนสส์ และ เคนนี ดัลกลิช มีความเชื่อว่า กลุ่มนักเตะลิเวอร์พูลชุดปัจจุบันสามารถเจริญรอยตามรอยเท้าของพวกเขาได้ด้วยการชูถ้วยยูโรเปียน คัพที่กรุงเคียฟในสัปดาห์หน้า
แต่สองตำนานของสโมสรยอมรับว่า ความคิดที่ทีมเรอัล มาดริดกำลังตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกสมัยที่ 4 จากการแข่งขันเพียง 5 ฤดูกาลนั้นจะทำให้พวกเขาเป็นคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศที่ยากยิ่งกว่าเดิม
ก่อนเกมที่หงส์แดงจะมีส่วนร่วมกับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่ดีที่สุดของยุโรป นัดชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 8 ซูเนสส์ และดัลกลิชนั่งลงพูดคุยกับ LFC TV เพื่อแบ่งปันความทรงจำต่างๆของพวกเขาถึงความสำเร็จในปี 1978, 1981 และ 1984 ของสโมสร
'When We Were Kings' ซึ่งจะออกอากาศครั้งแรกทาง LFC TV ในวันจันทร์ที่ 21 พ.ค. เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศอังกฤษ นอกจากนี้จะเห็นทั้งคู่ทำการเปิดเผยเรื่องราวนับ ตั้งแต่การนำเสนอเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยเกี่ยวกับห้องแต่งตัวที่ยอดเยี่ยมไปจนถึงการสนทนาถึงความเป็นไปได้ ของการที่ถ้วยยูโรเปียน คัพ สมัยที่ 6 จะถูกนำกลับมายังแอนฟิลด์ช่วงหลังจากนี้ของเดือนนี้
สำหรับดัลกลิช การพบกับเรอัล 2 เกมจะเป็นสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นมากกว่า อย่างไรก็ตามเขายังเชื่อว่า ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ สมควรที่จะได้รับความยำเกรง
เขาบอกว่า: "ผมคิดว่าเมื่อ 4 ทีมสุดท้ายในรอบรองชนะเลิศออกมาเป็นที่แน่นอนแล้ว ผมไม่คิดว่าทีมใดก็ตามแต่ใน 3 ทีมนั้นต้องการที่จะเจอเราตลอดทั้ง 2 เกม"
"เรามีความสามารถที่จะทำประตูมากมายในบ้านได้ แต่เราเองก็มีความสามารถที่จะทำประตูนอกบ้านได้เช่นกัน"
"ผมรู้ว่า เราแพ้ที่โรม่า 4-2 แต่นั่นคือการจับสลากที่แย่ที่สุดที่พวกเขาสามารถจะมีได้ บาเยิร์น มิวนิคหรือเรอัล มาดริด พวกเขาจะหวาดกลัวกับการจับได้เรา"
"แต่เมื่อมันเป็นการแข่งขันเพียงเกมเดียวเท่านั้น ผมคิดว่ามันให้โอกาสที่ดีกว่ากับคู่ต่อสู้ และเรอัล มาดริดเองไม่ใช่ทีมที่ไม่มีประสบการณ์ พวกเขากำลังจะเล่นเพื่อคว้าแชมป์สมัยที่ 13"
ซูเนสส์เองก็มั่นใจเช่นกันว่า ลิเวอร์พูลสามารถจะทำงานได้อย่างสำเร็จในยูเครน แต่เขาทำการเปรียบเทียบคู่แข่งของพวกเขากับทีมหงส์แดงซึ่งคว้า 3 แชมป์ใน 7 ฤดูกาล
เขากล่าวว่า: "ผมคิดว่าเรามีโอกาสดี แน่นอนว่ามาดริดจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ลิเวอร์พูลซึ่งอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของพวกเขาสามารถจะเอาชนะพวกเขาได้"
"พวกเขามีความเชื่อที่เราเคยมี เรามีออร่านั้นในการเจอกับบรูกส์ กับเรอัล มาดริด และโรม่า"
"พวกเขาจะพบกับออร่าในความคิดที่ลิเวอร์พูล ณ ตอนนั้นมี ครั้งนี้มันคือ ตาของลิเวอร์พูลที่จะออกไปแล้วขจัดออร่าของเรอัล มาดริดทีมนี้ทิ้ง"