
แม้เกมนี้ลิเวอร์พูลจะขึ้นนำเลสเอตร์ ซิตี้ ถึงสองประตูในครึ่งแรก จาก มาเน่ และฟรี์มีโน่ อย่างไรก็ตามครึ่งหลังกลับเป็นหนังคนละม้วนเป็นทัพจิ้งจอกสยามที่เกมดีกว่ามากและได้ประตูตีไข่แตกจากความผิดพลาดของ อลีสซง เบ็คเกอร์ แต่หงส์แดงยังดีพอคว้าชัยไปได้ 2-1 กลับขึ้นไปนำจ่าฝูงชั่วคราว
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 1กันยายน 2561
เลสเตอร์ 1-2 ลิเวอร์พูล
สนาม : คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม
เลสเตอร์ยังไม่มีเจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าตัวเก่งที่เหลือโทษแบนเป็นนัดสุดท้าย จาก3นัด รวมไปถึงแม็ตตี้ เจมส์ และ ซากลาร์ โซยุนคู กองหลังเติร์กตัวใหม่ ที่ยังไม่ฟิต
ส่วนลิเวอร์พูลยังขาด เดยัน ลอฟเรน ที่ยังไม่ฟิต ส่วนเกมรุกยังนำโดย 3 ประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ เหมือนเดิม และส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมลงเป็นตัวจริงในเกมนี้
เริ่มเกมาเพียง 4 นาที ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยิงไปติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล บอลกระดอนมาเข้าทาง โมฮาเหม็ดซาลาห์ ตามซ้ำจ่อๆแต่บอลไม่ตรงกรอบ
ลิเวอร์พูลยึดฝูง! บุกสอยเลสเตอร์ แม้มีเสียว อลีสซงเหวอเสียซิง
น.10 หงส์แดงมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมมาจากกราบซ้ายเปิดเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดมายิงด้วยซ้ายเข้าไป
ลิเวอร์พูลยึดฝูง! บุกสอยเลสเตอร์ แม้มีเสียว อลีสซงเหวอเสียซิง
น.23 เลสเตอร์ ได้ลุ้นบ้าง เดอมาไร เกรย์ หลุดกับดักล้ำหน้ายิงด้วยขวา แต่ยังติดเซฟ อลีสซง เบ็คเกอร์
ลิเวอร์พูลยึดฝูง! บุกสอยเลสเตอร์ แม้มีเสียว อลีสซงเหวอเสียซิง
ลิเวอร์พูล ที่บุกอย่างต่อเนื่อง มาได้ประตูที่สองใน น.45 จากจังหวะลูกเตะมุม เจมส์ มิลเนอร์ เปิดมาเข้าหัว โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โขกเน้นๆเข้าไป
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ เลสเตอร์ 2-0
เริ่มครึ่งหลังมากลายเป็นเลสเตอร์ที่บุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์แบบถนัดถนี่
ลิเวอร์พูลยึดฝูง! บุกสอยเลสเตอร์ แม้มีเสียว อลีสซงเหวอเสียซิง
น.63 ลิเวอร์พูลมาเสียประตูจนได้ อลีสซง พยายามล็อกหลบแต่โดน เจมส์ แมดดิสัน ฉกบอลไปจ่ายให้ ราชิด เกซซาล ได้ยิงโล่งๆไม่เหลือให้ทีมตีไข่แตกไล่มา 1-2
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ : แคสเเปอร์ ชไมเคิ่ล ,ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เวส มอร์แกน, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เบน ชิลเวลล์ - วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, น็อมปาลิส เมนดี้,ราชิด เกซซาล, เจมส์ แมดดิสัน (แดเนี่ยล อมาร์ตีย์ น.83), มาร์ค อัลไบรท์ตัน (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.61), เดมาไร เกรย์ (ชินจิ โอกาซากิ น.76)
ลิเวอร์พูล : อลิสซง เบ็คเกอร์,เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,เจมส์ มิลเนอร์,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (นาบี เกอิต้า น.71), จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม,โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (เซอร์ดาน ชากีรี่ น.71), โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์