"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มีอันต้องพ่ายเป็นนัดแรกของซีซั่น หลังเจอทีเด็ดของ เอแดน อาซาร์ ตัวสำรองที่ลงมาซัดประตูชัยพา เชลซี พลิกแซงกลับมาเอาชนะ 2-1 ทะยานเข้าไปเล่นในรอบ 4 ในศึก คาราบาว คัพ เมื่อคืนวันพุธที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา
เกมนี้ทั้งสองทีมจัดผู้เล่นสำรองลงเล่นเป็นส่วนใหญ่ โดย "หงส์แดง" ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดสามแนวรุกเป็น เซอร์ดาน ชากิรี่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ ซาดิโอ มาเน่ ขณะที่ฝั่งของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ นายใหญ่ของสิงห์บลูส์ วาง วิคเตอร์ โมเสส, อัลบาโร่ โมราต้า และวิลเลี่ยน เป็นทีเด็ดในแดนหน้า
เกมเริ่มมาได้แค่ 3 นาที "สิงห์บลูส์" ทักทายก่อนเลย จากจังหวะได้ลูกเตะมุมทางขวา วิลเลี่ยน เปิดบอลมากลางประตู อันเดรียส คริสเตนเซ่น เทกขึ้นโขกคนเดียวแต่บอลเบาไปตรงตัว มิโญเล่ต์
หงส์แพ้แล้ว! อาซาร์ฮีโร่เชลซีบุกแซงดับลิเวอร์พูลสุดมันส์ ลิ่วคาราบาวคัพ
จากนั้น นาที 6 เชลซี ได้ลุ้นฟรีคิกระยะเกือบ 25 หลา หลัง โมเรโน่ ไปตัดฟาวล์ใส่ โมเสส และเป็น วิลเลี่ยน ที่ปั่นด้วยขวาเหินคานไป
เกมรุกของทีมเยือนยังโจมตีมาเป็นชุด นาที 12 ได้ซัดนอกกรอบอีกครั้งแต่คราวนี้บอลเลียดไปเข้ามือมิโญเล่ต์
อีกครั้งที่ "สิงห์บลูส์" หวิดจะได้ประตูขึ้นนำ นาที 17 ฟาเบรกาส ตักบอลให้ โมราต้า เบียดลอฟเรนเข้าไปดีดบอลข้ามหัว มิโญเล่ต์ แต่นายด่านเลือดเบลเยียมยังไวใช้มือปัดบอล แม้ โมราต้า จะตามไปตวัดยิงด้วยซ้ายอีกครั้งแต่บอลเลยหน้าปากประตูไปแบบได้เสียว
หงส์แพ้แล้ว! อาซาร์ฮีโร่เชลซีบุกแซงดับลิเวอร์พูลสุดมันส์ ลิ่วคาราบาวคัพ
โอกาสดีที่สุดของ หงส์แดง ต้องรอถึงนาที 37 จากจังหวะที่ สเตอร์ริดจ์ ลงมาล้วงบอลต่ำก่อนจ่ายบอลทะลุให้ เกอิต้า ลากบอลตัดเข้ากลางแล้วตะบันด้วยขวา บอลจะพุ่งเข้าเสาสองอยู่แล้วแต่ กาบาเยโร่ ยังพุ่งปัดออกไปได้
อีกสองนาทีถัดมา เซอร์ดาน ชากิรี่ เปิดบอลมาเข้าหัว มาเน่ เทกตัวโขกเน้นๆในกรอบ 6 หลา แต่บอลก็ยังโดน กาบาเยโร่ ป้องกันไว้ได้อีก
หงส์แพ้แล้ว! อาซาร์ฮีโร่เชลซีบุกแซงดับลิเวอร์พูลสุดมันส์ ลิ่วคาราบาวคัพ
นาที 44 ชากิรี่ ลากบอลจากขวาตัดเข้ากลางก่อนอัดเต็มข้อด้วยซ้ายบอลเหินคานไป ถัดมานาทีเดียว เชลซี จ่ายบอลกันพลาด ชากิรี่ ตัดบอลได้ก่อนแทงทะลุถึง สเตอร์ริดจ์ แต่ดาวยิงวัย 26 ปี ดันจับบอลยาวไป
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังเสมอกับ เชลซี 0-0
ครึ่งหลัง เริ่มมาได้ไม่ถึงนาที "หงส์แดง" ทิ้งโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ คริสเตนเซ่น แนวรับเชลซีจ่ายบอลคืนหลังส้นไป ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ โฉบมาแย่งบอลก่อนโยกหลบ กาบาเยโร่ ทว่าจังหวะสุดท้ายดันยิงด้วยขวาข้างไม่ถนัดหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
หงส์แพ้แล้ว! อาซาร์ฮีโร่เชลซีบุกแซงดับลิเวอร์พูลสุดมันส์ ลิ่วคาราบาวคัพ
นาที 52 หงส์แดง ได้ลูกส้มหล่นอีกครั้ง คราวนี้เป็น รอสส์ บาร์คลี่ย์ ที่โขกคืนหลังพลาดบอลไปถึง มาเน่ ที่วิ่งมาถึงบอลก่อนยิงไปติดขา กาบาเยโร่ ออกหลังไป และจากลูกคอนเนอร์ต่อมา มิลเนอร์ เปิดมาเสาแรกให้ ลอฟเรน โฉบขึ้นโหม่งไปโดนหลัง มาเน่ ข้ามคานไป
จนแล้วจนรอด ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ บอลเริ่มจาก มาเน่ ส่งบอลลอดขาฟาเบรกาสให้ เกอิต้า พลิกเข้าไปปั่นด้วยขวาบอลติดเซฟ กาบาเยโร่ แต่ยังมาเข้าทาง สเตอร์ริดจ์ ล้มตัวตีลังกายิงด้วยซ้ายซ้ำเข้าไปไม่เหลือ
หงส์แพ้แล้ว! อาซาร์ฮีโร่เชลซีบุกแซงดับลิเวอร์พูลสุดมันส์ ลิ่วคาราบาวคัพ
นาที 76 เฮนเดอร์สัน วางบอลยาวให้ ชากิรี่ หลุดเข้าไปในกรอบก่อนโดน เอเมอร์สัน เหนี่ยวล้มแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
จานั้นแค่สองนาทีต่อมา นาที 78 "สิงห์บลูส์" ตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากลูกฟรีคิกทางด้านขวา อาซาร์ เปิดมาเสาแรกเข้าหัว บาร์คลี่ย์ สะบัดโขกเต็มๆ บอลไปติดมือ มิโญเล่ต์ แต่ เอเมอร์สัน ยังพุ่งตามซ้ำเข้าไป
นาที 82 ลิเวอร์พูล เกือบพลิกขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ สเตอร์ริดจ์ ตั้งป้อมซัดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วอีกสองนาทีต่อมา นาที 84 กลายเป็น "สิงห์บลูส์" ที่แซงขึ้นนำ 2-1 จากความยอดเยี่ยมของ อาซาร์ ที่เลี้ยงบอลแหวกแนวรับเจ้าถิ่นก่อนโยกบอลลอดขา โมเรโน่ แล้วตะบันด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งเสียบเสาสองอย่างสวยงาม
จบเกม ลิเวอร์พูล พ่ายเป็นเกมแรกของฤดูกาล หลังโดน เชลซี บุกมาพลิกแซงเอาชนะได้แบบสนุก 2-1 ส่งผลให้ "สิงห์บลูส์" ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4 หรือ16ทีมสุดท้าย คาราบาว คัพ ต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เนธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, โฌแอล มาติป, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เจมส์ มิลเนอร์ (กัปตันทีม) (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.60), ฟาบินโญ่ (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.87), นาบี เกอิต้า - เซอร์ดาน ชากิรี่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, ซาดิโอ มาเน่ (โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ น.71)
สำรองไม่ได้ใช้: คามิล กราบาร่า, โจ โกเมซ, , เคอร์ติส โจนส์, โดมินิค โซลันกี้
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
เชลซี (4-3-3) : วิลลี่ กาบาเยโร่ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์ (กัปตันทีม), อันเดรียส คริสเตนเซ่น (ดาวิด ลุยซ์ น.73), เอเมอร์สัน - มาเตโอ โควาซิช (เอ็นโกโล่ ก็องเต้ น.64), เชส ฟาเบรกาส, รอสส์ บาร์คลี่ย์ - วิคเตอร์ โมเสส, อัลบาโร่ โมราต้า, วิลเลี่ยน (เอแดน อาซาร์ น.56)
สำรองไม่ได้ใช้ : มาร์ซิน บูลก้า, ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, จอร์จินโญ่, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย
ผู้จัดการทีม : เมาริซิโอ ซาร์รี่
ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์