
หลังจากทำภารกิจขึ้นนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จแล้ว สัปดาห์นี้ ลิเวอร์พูล มีงานสุดหินที่จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้นั่นก็คือการปราบ นาโปลี ในเกมนัดสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันอังคารที่ 11 ธันวาคมนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เพื่อคว้าตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ได้
สถานการณ์ในการผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ถ้วบใบโตยุโรปของ "หงส์แดง" ยังลูกผีลูกคน เพราะการที่พวกเขาพ่ายแพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-2 ที่สนามปาร์ค เดส์ แพร็งซ์ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ทีมรั้งอยู่อันดับ 3 มีเพียง 6 แต้มเท่านั้น เป็นรอง นาโปลี 3 คะแนน และ "เปแอสเช" 2 แต้ม ตามลำดับ
แน่นอนว่าตอนนี้ "เดอะ เร้ดส์" มีกำลังใจเต็มเปี่ยมหลังจากที่พวกเขาแซง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นเป็นจ่าฝูงลีก ฉะนั้นบรรดาลูกทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ พร้อมเต็มที่สำหรับภารกิจสำคัญที่จะต้องฟันฝ่าไปให้ แล้ว ลิเวอร์พูล จะทำยังไงถึงจะบรรลุเป้าหมาย เพราะสถานการณ์ของพวกเขาดูเหมือนสุ่มเสี่ยงต่อการโบกมือลา แชมเปี้ยนส์ ลีก ซะเหลือเกิน
สถานการณ์แบบนี้ ลิเวอร์พูล จะทำยังไงถึงจะเข้ารอบน็อกเอาต์ ?
อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่าเมื่อเช็คตารางของกลุ่ม ซี และเงื่อนไขต่างๆ แล้วนั้น จะพบว่าที่จริงโอกาสเข้ารอบของ "หงส์แดง" มันไม่ยากอย่างที่คิด เพราะพวกเขาต้องเอาชนะ นาโปลี แค่ 1-0 ก็เพียงพอต่อการเข้ารอบ เนื่องจากถ้าจบลงด้วยสกอร์นั้น เงื่อนไขต่อการเข้ารอบของทั้งสองทีมจะเท่ากันหมด จนทำให้ต้องมาดูกรณีจำนวนประตูรวมที่ทั้งสองทีมยิงได้ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่ง ลิเวอร์พูล จะทำได้มากกว่า นาโปลี เพราะจำนวนประตูที่ยิงได้รวมของพวกเขาจะเพิ่มจาก 8 ลูก เป็น 9 ประตู ส่วนของฝั่ง นาโปลี จะหยุดอยู่ที่ 7 ลูก (ผลต่างประตูได้-เสีย ของทั้งสองทีมจะเป็น +2 เท่ากัน ถ้าเกิดจบลงด้วยการที่ ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0)
อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิด ลิเวอร์พูล โดนยิงแล้วล่ะก็ พวกเขาก็จำเป็นต้องชนะด้วยผลต่าง 2 ลูกขึ้นไป (อย่างเช่น 3-1, 4-2 ฯลฯ) เพราะถ้าชนะด้วยผลต่างแค่ประตูเดียว (เช่น 2-1, 3-2) มันจะไปเข้าเงื่อนไขการวัดจากผลงานการเจอกันเองระหว่างสองทีมที่มีคะแนนเท่ากัน ที่บอกว่า "ทีมที่ทำประตูในเกมเยือนได้เยอะกว่า ระหว่างการเจอกันเอง จะเป็นฝ่ายเข้ารอบ"
ถ้า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แพ้หรือเสมอ เร้ด สตาร์ เบลเกรด ล่ะ ?
ถึงกระนั้น ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ สื่อท้องถิ่นของเมืองผู้ดีระบุว่าถ้าเกิด "เปแอสเช" ทำได้แค่เสมอกับ เร้ด สตาร์ โจทย์มันก็จะง่ายขึ้นสำหรับทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพราะพวกเขาขอแค่ชนะก็จะตีตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที ไม่ต้องสนสกอร์ว่าจะชนะเท่าไหร่
ขณะเดียวกัน ถ้าเกิดทีมรวมแข้งระดับพันล้านอย่าง ปารีสฯ ไปหมูหกแพ้ เร้ด สตาร์ แล้วล่ะก็ ลิเวอร์พูล ก็ขอแค่เก็บ 3 แต้มให้ได้ ก็จะผ่านเข้ารอบเหมือนกัน
แล้วหากเกิดกรณีที่ ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงเสมอล่ะ ?
กรณีที่ ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอกับ นาโปลี พวกเขาจะมีแค่ 7 คะแนน แน่นอนว่าปิดประตูเข้ารอบน็อกเอาต์แชมเปี้ยนส์ ลีก ทันที แต่พวกเขาก็จะการันตีได้สิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เพราะต่อให้ เร้ด สตาร์ เบลเกรด เอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ และมี 7 แต้มเท่ากับ แชมป์ถ้วยใบโตยุโรป 5 สมัย แต่เฮด ทู เฮด ทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เหนือกว่า (เหย้าชนะ 4-0 แต่เยือนแพ้ 0-2)
อย่างไรก็ตามเกิดกรณีโลกถล่มแผ่นดินสะเทือน !!! ลิเวอร์พูล แพ้ นาโปลี พวกเขาจะมี 6 คะแนนเท่าเดิม และฟ้าดันกลั่นแกล้งให้โดนล้อในโลกโซเชียลเมื่อ เร้ด สตาร์ ดันทะลึ่งชนะ แซงต์-แชร์กแมง ก็จะมี 7 แต้ม และแซงเข้าไปเป็นอันดับ 3 พร้อมซิวตั๋วไปเล่นถ้วยใบเล็กยุโรปทันที
เปิดเงื่อนไขลิเวอร์พูลพลิกนรกเข้ารอบ16ทีมชปล.
เงื่อนไขตัดสินทีมที่เข้ารอบ เมื่อมีคะแนนเท่ากันของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (ไล่จากเงื่อนไขที่มาเป็นอันดับ 1 ไปถึงอันดับสุดท้าย)
- จำนวนแต้มในเกมของการเจอกันเอง
- ผลต่างประตูได้-เสียของการเจอกันเอง
- จำนวนประตูที่ทำได้ระหว่างการเจอกันเอง
- จำนวนประตูที่ทำได้ในเกมเยือนระหว่างการเจอกันเอง
- ถ้ามีทีมที่มีคะแนนเท่ากันมากกว่า 2 ทีม และเงื่อนไขในข้างต้นเท่ากันหมด จะต้องมานับในกรณี มินิลีก
- ผลต่างประตูได้-เสียรวมของทั้งรอบแบ่งกลุ่ม
- จำนวนประตูที่ทำได้รวมของทั้งรอบแบ่งกลุ่ม
- จำนวนประตูในเกมเยือนที่ทำได้รวมของทั้งรอบแบ่งกลุ่ม
- จำนวนเกมที่ชนะรวมในรอบแบ่งกลุ่ม
- จำนวนเกมเยือนที่ชนะรวมในรอบแบ่งกลุ่ม
- คะแนนระเบียบวินัย (นับจากใบเหลือง-ใบแดง)
- ค่าสัมประสิทธิ์จาก ยูฟ่า