หากซีซั่นนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล พาทีมเถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้สำเร็จ นอกจากจะเป็นการกลับมาคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปีของสโมสรแล้ว ยังจะเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้โดยไร้ผู้เล่นชาวฝรั่งเศสอยู่ในทีมถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งศตวรรษที่ 21

ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัว หลังปัจจุบันกำลังรั้งจ่าฝูงนำแมนฯ ซิตี้ 1 คะแนน

ทีมชุดนี้ของ "หงส์แดง" ทั้ง 22 คนที่ คล็อปป์ ใช้งานในซีซั่นนี้ ไม่มีแข้งชาวฝรั่งเศสแม้แต่คนเดียว โดย 7คนมาจากอังกฤษ, 3 คนจากบราซิล, 2 คนจากฮอลแลนด์ ซึ่งที่เหลือมาจาก เบลเยียม, แคเมอรูน, โครเอเชีย, อียิปต์,กินี, โปรตุเกส, เซเนกัล, สเปน, สวิตเซอร์แลนด์ และ สกอตแลนด์ อย่างละ 1 คน

หากนับตั้งแต่เริ่มศตวรรษนี้ มิคาเอล ซิลแวสต์ คือผู้เล่นชาวฝรั่งเศสคนแรกที่ได้สัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยทำได้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในฤดูกาล 1999/2000

ก่อนที่ในเวลาต่อมา ปาทริซ เอฟร่า แบ็กซ้ายจอมบุกจะกลายเป็นแข้งฝรั่งเศสที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุดของ"ปีศาจแดง"ที่จำนวน 5 สมัย (2007, 2008, 2009, 2011 และ 2013)

อย่างไรก็ตามไม่มีสโมสรใดที่คงคอนเซ็ปเน้นขุนพลจากทัพ "เลส์ เบลอส์" เทียบเท่ากับ อาร์เซน่อล ในยุค ของอาร์แซน เวนเกอร์ อีกแล้ว โดยเฉพาะชุดคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2001-02 และ 2003-04 โดยมีทั้ง เธียรี่ อองรี, ปาทริค วิเอร่า, โรแบร์ ปิแรส, ซิลแวง วิลตอร์, เฌเรมี่ อาลิยาดิแยร์, ปาสกาล ซีก็อง และ กาแอล กลิชี่

ขณะที่ เชลซี ก็มีผู้เล่นจากฝรั่งเศสที่อยู่ในชุดคว้าแชมป์หลายคนเช่นกันนับตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรและแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทัพ โดยชุดนั้นแชมป์ฤดูกาล 2004-05 มีทั้ง โคล๊ด มาเกเลเล่ และ วิลเลี่ยม กัลลาส ก่อนที่ในซีซั่นถัดมาพวกเขาจะดึง ลาสซาน่า ดิยาร่า มาร่วมทัพอีกหนึ่งคน

หลังจาก มูรินโญ่ ออกจากทีม "สิงห์บลู" นักเตะฝรั่งเศสก็ยังมีส่วนสำคัญกับทีมในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อเนื่อง โดยในฤดูกาล 2009-10 ที่พวกเขาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งในยุคของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็มีทั้ง ฟลอร็อง มาลูด้าและ นิโกล่าส์ อเนลก้า เป็นตัวชูโรง

ขณะที่แชมป์ล่าสุดในปี 2017 ของ สิงโตน้ำเงินคราม ในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซืออิตาเลียนก็มี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดในเวลาสองปีกับสองสโมสร หลังเพิ่งทำได้กับ เลสเตอร์ ซิตี้

ส่วน แมนฯ ซิตี้ เองตลอดการคว้าแชมป์ลีก 3 ครั้งหลังสุดในศตวรรษนี้พวกเขาก้ไม่เคยขาดแข้งเลือดน้ำหอมเช่นกัน หากย้อนไปก่อนหน้านี้มี ซามีร์ นาสรี่ และ กาแอล กลิชี่ อยู่ในชุดแชมป์ลีกปี 2012 ในยุค โรแบร์โต้ มันชินี่ ตามมาด้วย มานูเอล เปเยกรินี่ ปี 2014

ย้อนไปในฤดูกาลที่แล้วมีทั้ง เอเมอริค ลาป็อร์กต์, เอเลียควิม ม็องกาล่า และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ที่อยู่ในชุดคว้าแชมป์ลีกภายใต้การทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

จะเห็นได้ว่าผู้เล่นชาวฝรั่งเศสกลายมามีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์ของแต่ละสโมสรทั้งสิ้น และต้องดูกันต่อไปว่าท้ายที่สุดแล้วทีมของ คล็อปป์ จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในศตวรรษที่ 21 พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้โดยปราศจากนักเตะฝรั่งเศสหรือไม่

ทำเนียบแชมป์พรีเมียร์ลีกของนักเตะฝรั่งเศส

เอริค คันโตน่า (แมนฯ ยูไนเต็ด) - 1992-93, 1993-94, 1995-96, 1996-97

นิโกล่าส์ อเนลก้า (อาร์เซน่อล) - 1997-98, 2009-10

เรมี การ์ด (อาร์เซน่อล) - 1997-98

เอ็มมานูเอล เปอตี (อาร์เซน่อล) - 1997-98

ปาทริค วิเอร่า (อาร์เซน่อล) - 1997-98, 2001-02, 2003-04

มิคาเอล ซิลแวสต์ (แมนฯ ยูไนเต็ด) - 1999-2000, 2000-01, 2002-03, 2006-07

ฟาเบียง บาร์กเตซ (แมนฯ ยูไนเต็ด) - 2000-01, 2002-03

เธียรี่ อองรี (อาร์เซน่อล) - 2001-02, 2003-04

โรแบร์ ปิแรส (อาร์เซน่อล) - 2001-02, 2003-04

ซิลแวง วิลตอร์ (อาร์เซน่อล) - 2001-02, 2003-04

โลร็องต์ บล็องก์ (แมนฯ ยูไนเต็ด) - 2002-03

เฌเรมี่ อาลิยาดิแยร์ (อาร์เซน่อล) - 2003-04

ปาสกาล ซีก็อง (อาร์เซน่อล) - 2003-04

กาแอล กลิชี่ (อาร์เซน่อล, แมนฯ ซิตี้) - 2003-04, 2011-12, 2013-14

วิลเลี่ยม กัลลาส (เชลซี) - 2004-05, 2005-06

โคล๊ด มาเกเลเล่ (เชลซี) - 2004-05, 2005-06

ปาทริซ เอฟร่า (แมนฯ ยูไนเต็ด) - 2006-07, 2007-08, 2008-09, 2010-11, 2012-13

หลุยส์ ซาฮา (แมนฯ ยูไนเต็ด) - 2006-07, 2007-08

ฟลอร็อง มาลูด้า (เชลซี) - 2009-10

ซามีร์ นาสรี่ (แมนฯ ซิตี้) - 2011-12, 2013-14

โลอิก เรมี่ (เชลซี) - 2014-15

เคิร์ท ซูม่า (เชลซี) - 2014-15, 2016-17

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เลสเตอร์ ซิตี้, เชลซี) - 2015-16, 2016-17

เอเมอริค ลาป็อร์กต์ (แมนฯ ซิตี้) - 2017-18

เอเลียควิม ม็องกาล่า (แมนฯ ซิตี้) - 2017-18

แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ (แมนฯ ซิตี้) - 2017-18

สยามสปอร์ต