
นับตั้งแต่เก็บข่าวของลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว เมมฟิส เดอปาย กลับชาติมาเกิดอีกครั้งในการเล่นให้โอลิมปิก ลียง โดยกลายเป็นแข่งกำลังสำคัญของ "โอแอล" ด้วยเหตุนี้ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในแข้งที่ได้รับการจับตามองอย่างมากจากหลายๆ สโมสรชั้นนำในลีกยุโรป
ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในสโมสรที่ตกเป็นข่าวกับ สตาร์ชาวดัตช์รายนี้ โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมพยายามที่จะเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ที่มีศักยภาพและความสามารถหลากหลาย เพื่อเข้ามาช่วย 3 ประสานในเกมรุกทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ในการไล่ล่าความสำเร็จฤดูกาล 2019-2020
แน่นอนว่าสาวก "เดอะ ค็อป" อาจจะตะขิดตะขวงใจที่เห็น เดอปาย มาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ เพราะนักเตะรายนี้เคยเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมลีก ที่สำคัญผลงานก็ไม่ได้เรื่อง แถมยังมีปัญหาส่วนตัวอีกต่างหาก ทำให้แฟนบอล "หงส์แดง" ถึงกับเกาหัวว่าสโมสรกำลังคิดอะไรกันแน่ถึงจะเอานักเตะรายนี้มาเสริมทัพ
อย่างไรก็ตามฟอร์มการเล่นที่สุดยอดของ เดอปาย ในชุดโอลิมปิก ลียง ซึ่งเขาซัดไป 34 ประตูกับ 30 แอสซิสต์จากการเล่น 88 เกมลีกเมืองน้ำหอม น่าจะทำให้ ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์เพราะเขาเป็นนักเตะที่เล่นได้หลากหลายซึ่ง คล็อปป์ ชื่นชอบผู้เล่นแบบนี้มากๆ และจะช่วยพัฒนาขุมกำลังของทีมให้แข็งแกร่งพร้อมที่จะสู้ศึกระยะยาวทั้งในลีก และฟุตบอลถ้วย
- ความสามารถเฉพาะตัว
เดอปาย เป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ โดยเฉพาะกับการเล่นตำแหน่งปีกที่เต็มไปด้วยความรวดเร็ว ว่องไว มีพละกำลังเต็มเปี่ยม และยังสามารถวิ่งเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นเทคนิคชั้นยอดที่ช่วยให้เขาเอาชนะบรรดากองหลังมากมาย แถมยังมีทีเด็ดในเรื่องการยิงฟรีคิกจากระยะไกลด้วย
ดาวเตะเลือดดัตช์ถนัดเท้าขวา แต่ก็สามารถใช้เท้าซ้ายในการเปิดและผ่านบอลได้เช่นกัน โดยมีหลักฐานยืนยันว่าเขาสามารถทำ 15 แอสซิสต์ในทุกการแข่งขันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา มากกว่า โม ซาลาห์ (13 ครั้ง) และ ซาดิโอ มาเน่ (5 ครั้ง) รวมไปถึงการโชว์ความนิ่งด้วยการซัดไป 12 ประตูจากการในทุกรายการเช่นกัน
ขณะเดียวกัน เดอปาย ยิงประตูได้น้อยกว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (16 ประตู) ที่ทำได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วเพียงแค่ 4 ประตูเท่านั้น ทั้งๆ ที่นักเตะมักจะต้องถูกจับไปเล่นทางริมเส้นก็ตาม แน่นอนว่า "หงส์แดง" จะได้อะไรเยอะมากกว่านี้หากได้ตัว อดีตดาวรุ่งพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาร่วมทัพ
- ความหลากหลาย
สตาร์ลูกหนังทีมชาติฮอลแลนด์ สามารถปรับตัวกับการเล่นทางฝั่งซ้ายในระบบ 4-3-3 หรือถูกจับไปยืนเป็นหน้าเดี่ยวในระบบเดียวกันนี้ก็ได้ เขาอาจจะมีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อถูกจับไปเล่นปีกขวา แต่กระนั้นก็สามารถเติมเต็มในตำแหน่งนั้นได้ในบางครั้ง นอกจากนี้นักเตะยังทำผลงานได้ดีเมื่อต้องถูกจับไปยืนต่ำบ้างในบางเกม
สำหรับความสามารถที่หลากหลายแบบนี้เป็นสิ่งที่ คล็อปป์ กำลังมองหาเพราะเขาน่าจะเป็นส่วนเติมเต็มให้กับขุมกำลังของ "เดอะ เร้ดส์" แข็งแกร่งยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ดร็อป 3 แนวรุกสำคัญของทีม ซึ่งพวกเขาเป็น 3 ประสานเกมบุกที่สุดแสนสยดสยองในยุโรปเวลานี้
แน่อนว่าศักยภาพของ เดอปาย จะไม่หน่วงพัฒนาการของ ไรอัน บรูว์สเตอร์ กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี ซึ่งเป็นนักเตะที่ คล็อปป์ ชื่นชอบมากๆ และ ดิว็อค โอริกี้ หัวหอกวัย 24 ปี ที่มีโอกาสเป็นฮีโร่ให้กับต้นสังกัดหลายเกม อย่างประตูที่ซัดช่วยทีมชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า เป็นต้น
ทั้งนี้ เดอปาย สามารถช่วยทีมทั้งการเล่นในลีกที่ใช้เวลานาน และฟุตบอลถ้วยก็ได้ นอกจากนี้นักเตะยังสามารถปรับตัวกับการเล่นในตำแหน่งที่แตกต่างรวมทั้งยังมีประสิทธิภาพในการยิงประตูกับแอสซิสต์ซึ่งเรื่องนี้จะพิสูจน์ได้ก็ต่อเมื่อถึงช่วงเดือนพฤษภาคม 2020
- การการแข่งขันในทีม
ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ให้สัมภาษณ์ทันทีที่นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มยับไม่นับญาติ วัตฟอร์ด 6-0 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าทุกๆ ตำแหน่งภายในทีมมีการแข่งขันกันตลอด และนั่นช่วยดึงศักยภาพของเขาออกมา จนเล่นได้อย่างสุดยอดในฤดูกาลนี้
เป็นที่ทราบกันดีว่า แมนฯ ซิตี้ มีนักเตะชั้นยอดอย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ลีรอย ซาเน่ และ สเตอร์ลิง อยู่ในทีม แถมพวกเขายังเสริมแกร่งด้วยการคว้าตัว ริยาด มาห์เรซ มาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยการมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งทำให้ ดาวเตะชาวอังกฤษ ต้องยกระดับฝีเท้าของตัวเอง และก็ทำได้จริงๆ เมื่อเขาซัดไป 25 ประตูกับ 18 แอสซิสต์ ในทุกรายการ
แน่นอนว่าหาก เดอปาย มาอยู่กับ "เดอะ เร้ดส์" คงทำให้ มาเน่ กับ ซาลาห์ ซึ่งได้ตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดในลีกร่วมกัน (ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง ด้วย) และ ฟีร์มีโน่ คงจะต้องพยายามพัฒนาฝีเท้าตัวเองให้สุดยอดยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่งั้นมีโอกาสที่จะถูกแย่งตำแหน่ง
- ตบหน้าคู่อริตลอดกาล
ตอนนี้คงไม่มีใครปฏิเสธความจริงที่ว่าสาวก "เดอะ ค็อป" กับสาวก "เร้ด อาร์มี่" คงเปิดฉากตอบโต้ด้วยสงครามน้ำลายหาก เดอปาย ย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ เพราะนั่นถือเป็นเรื่องที่เสียความรู้สึกสำหรับแฟนบอล "ผีแดง" ที่เห็นอดีตนักเตะที่ตัวเองเคยเชียร์ย้ายค่ายไปอยู่กับคู่อริร่วมชาติ
ลองนึกภาพว่าแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด จะเจ็บจี๊ดขนาดไหนที่ เดอปาย ไปเล่นกับ ลิเวอร์พูล แถมในเกม "แดงเดือด" นักเตะตะบันประตูชัยให้ยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์คว้าชัยชนะ หรือแอสซิสต์ช่วยเพื่อนร่วมทีมทำประตูในเกมแห่งศักดิ์ศรีประจำพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า
ยิ่งไปกว่านั้นหาก เดอปาย ทำผลงานได้อย่างสุดยอดและช่วย "หงส์แดง" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือแชมป์รายการใดก็ตามได้สำเร็จ ยิ่งเป็นการตบหน้าฉาดใหญ่ใส่ทุกๆ คนที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพราะตอนที่พวกเขามี แข้งดัตช์อยู่ในทีม ดันไม่มีปัญญาดึงศักยภาพที่แท้จริงของนักเตะออกมาได้