คู่เปิดหัวประจำสัปดาห์ลีกผู้ดี..."หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมยกพลออกเยือน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี รองจ่าฝูง นัดนี้น่าจับตา โรเบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ของทีมเยือน และ ดีเอโก้ คอสต้า ของเจ้าถิ่นที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงทั้งคู่ ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันศุกร์ที่ 16 ก.ย. ศกนี้
ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2559
เชลซี (2) - ลิเวอร์พูล (6)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ศึกพรีเมียร์ลีกคืนวันศุกร์ เกมที่ 2 ของซีซั่นนี้ เป็นเกมใหญ่ของ 2 ทีมดังที่ไม่มีโปรแกรมยุโรปในฤดูกาลนี้ทั้งคู่
เชลซี รองจ่าฝูง เพิ่งหยุดผลงานชนะรวด หลังจากบุกเสมอ สวอนซี 2-2 เมื่อวันอาทิตย์ จึงเก็บไป 10 คะแนนจาก 4 นัดแรก
อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียน เจอปัญหาจากเกมที่ ลิเบอร์ตี้ เมื่อ จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมเจ็บข้อเท้าซ้าย ต้องพักประมาณสัปดาห์เศษๆ
โอกาสจึงตกเป็นของ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังตัวใหม่ที่เพิ่งย้ายกลับรังด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย
ส่วนแบ็กซ้ายตัวใหม่ มาร์กอส อลอนโซ่ ค่าตัว 23 ล้านปอนด์ คงต้องรอโอกาสข้างสนามต่อ
คาดว่า คอนเต้ อาจไม่ปรับทีมตัวจริง ที่ยึดลงเล่นเกมลีกมาตลอด ยกเว้นแนวรับจุดเดียว
เริ่มจากผู้รักษาประตู ติโบต์ กูร์กตัวส์ ลงเฝ้าเสา
แผงหลัง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แบ็กขวา, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า แบ็กซ้าย และคู่เซนเตอร์เปลี่ยนมาเป็น แกรี่ เคฮิลล์ กับ ดาวิด ลุยซ์ คู่เซนเตอร์ชุดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2012
ตรงกลางสนาม เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เป็นตัวตัดเกม ขยับขึ้นมาหน้าเดิมๆ วิลเลียน, ออสการ์, เนมานย่า มาติช และ เอแดน อาซาร์
ศูนย์หน้าตัวเป้า ดีเอโก้ คอสต้า พร้อมลงสนามก่อน มิชี่ บาตชูอายี่ เหมือนเดิม
ด้าน หงส์แดง มี 7 คะแนนจาก 4 นัดแรก ขึ้นมารั้งอันดับ 6 หลังเพิ่งโชว์ฟอร์มร้อนแรง เปิดบ้าน แอนฟิลด์ ยุคปรับปรุงใหม่ ถล่ม เลสเตอร์ แชมป์เก่า 4-1
สภาพทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้ เดยัน ลอฟเรน เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักกลับคืนทีม หลังบาดเจ็บที่ศีรษะจนพลาดเกมเมื่อวันเสาร์
ลูคัส เลว่า จะกลับไปนั่งสำรอง หลังจากถูกจับเล่นเซนเตอร์จำเป็นนัดก่อน และมีส่วนพลาดเสียประตูให้ เจมี่ วาร์ดี้
ในราย เอ็มเร่ ชาน กองกลางเยอรมัน ที่ลงซ้อมตั้งแต่สัปดาห์ก่อน จะยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ เพราะ คล็อปป์ ต้องการให้นักเตะซ้อมมากกว่านี้
มามาดู ซาโก้ กองหลังที่มีปัญหาและไม่ได้ย้ายทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์นั้น คล็อปป์ ยืนยันว่านักเตะยังต้องเรียกความฟิตอีกสักระยะ
การจัดทัพ ผู้รักษาประตู ซิมง มินโญเลต์ เริ่มหนาวๆ ร้อนๆ แล้ว หลังจาก โลริส คาริอุส ประตูตัวใหม่หายเจ็บกระดูกมือแตกกลับมานั่งสำรองนัดก่อน
แนวรับแน่นขึ้นเมื่อได้ เดยัน ลอฟเรน กลับมายืนเซนเตอร์คู่ โจเอล มาตีป โดยมี เนธาเนียล ไคลน์ แบ็กขวา และแบ็กซ้ายเป็น เจมส์ มิลเนอร์ ต่อ
แดนกลาง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ประสานงานกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ อดัม ลัลลานา
ส่วน 3 ประสานแนวรุก ซาดิโอ มาเน่ กับ โรเบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น่าเป็นตัวยืน ส่วนอีก 1 ที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อาจเบียด แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หลุดไปนั่งสำรองในการกลับเยือนรังเก่า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี : ติโบต์ กูร์กตัวส์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, วิลเลียน, ออสการ์, เนมานย่า มาติช, เอแดน อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า
ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์, เนธาเนียล ไคลน์, โจเอล มาตีป, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, อดัม ลัลลานา, ซาดิโอ มาเน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โรเบร์โต้ ฟีร์มีโน่
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน
ผลงานการพบกันที่บ้านเชลซี
เชลซีชนะ 44 ลิเวอร์พูลชนะ 22 เสมอ 20
ประตูที่ทำได้ : เชลซี 146 ลูก ลิเวอร์พูล 92 ลูก
- เชลซีแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 8 เกมลีกหลังสุดที่พบลิเวอร์พูล แต่มาจากการเจอกันที่นี่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว (ชนะ 3 เสมอ 4)
- เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าชัยชนะในพรีเมียร์ลีกนัดแรก จากเกมกับสิงห์บลูส์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อตุลาคม 2015
- เชลซีแพ้แค่ครั้งเดียวที่เล่นเกมพรีเมียร์ลีกในวันศุกร์ โดยแพ้ 2-4 ต่อชาร์ลตัน เมื่อธันวาคม 2003 (ชนะ 2 เสมอ 3)
- ลิเวอร์พูลชนะ 4 จาก 5 เกมลีกหลังสุดที่เล่นวันศุกร์ โดยเกมที่เหลือ แพ้อาร์เซน่อล เมื่อเมษายน 2004
- ดีเอโก้ คอสต้า ทำ 5 ประตูจาก 5 เกมลีกหลังสุดที่ลงสนาม รวมถึง 4 ประตูจาก 4 เกมในยุค อันโตนิโอ คอนเต้ ฤดูกาลนี้
- "หงส์แดง" ยิงประตูในลีกรอบปี 2016 มากกว่าทีมอื่น (50) โดย 24 จากจำนวนดังกล่าวมาจากเกมนอกบ้าน สูงสุดเท่ากับสเปอร์ส
- เชลซีเก็บคลีนชีตได้แค่ครั้งเดียวจาก 14 เกมลีกหลังสุดในบ้าน โดยมาจากเกมล่าสุดที่พบเบิร์นลี่ย์ (3-0)
- "สิงห์บลูส์" ชนะ 2 เกมลีกหลังสุดในบ้าน แต่ไม่เคยชนะติดต่อกัน 3 นัด นับตั้งแต่พฤษภาคม 2015 ที่พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก จากเกมกับคริสตัล พาเลซ
- ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เสียประตูตลอด 8 เกมลีกหลังสุดนอกบ้าน โดยหนล่าสุดที่พวกเขาเสียประตูติดต่อกัน 9 เกมเยือน เกิดขึ้นเมื่อพฤษภาคม 2005
- อันโตนิโอ คอนเต้ ไม่แพ้ในการคุมทีมเล่น 30 เกมลีกหลังสุดในบ้าน (ชนะ 28 เสมอ 2 แพ้ 0) โดยชนะรวด 21 เกมติดต่อกันด้วย ซึ่งหนล่าสุดที่แพ้คาบ้าน เกิดขึ้นเมื่อ 6 มกราคม 2013 สมัยคุมยูเวนตุสพบซามพ์โดเรีย
- นี่เป็นการพบกันครั้งที่ 53 ระหว่างคู่นี้ในทุกรายการในศตวรรษนี้ มากกว่าคู่อื่นๆ ในฟุตบอลอังกฤษ
- เชลซี ปล่อยให้คู่แข่งยิงเข้ากรอบแค่ 7 ครั้งจาก 4 เกมแรก (น้อยที่สุดในลีก) แต่เสีย 4 ประตูจากโอกาสดังกล่าว
ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านเชลซี)
เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
31 ตุลาคม 2015 ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก
ผู้ทำประตู : 1-0 รามิเรส น.4, 1-1 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.45+3, 1-2 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.74, 1-3 คริสติย็อง เบนเตเก้ น.83