เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ชม แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าของทีม ทำผลงานแจ่ม หลังมีส่วนช่วยต้นสังกัดเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ในเกมลีก เมื่อคืนวันจันทร์ บอกดาวเตะอังกฤษสำคัญจริงๆ ต่อ "หงส์แดง" โดยเฉพาะในจังหวะที่คู่แข่งเริ่มล้าแล้ว พร้อมชี้ รอสส์ บาร์คลีย์ มิดฟิลด์ "ทอฟฟี่" โชคดีไม่โดนแดงจังหวะอัด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันอังคารที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า เขาพอใจอย่างยิ่งกับฟอร์มการเล่นของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกของทีม หลังนักเตะถูกส่งลงสนามและมีส่วนสำคัญช่วยให้ต้นสังกัดคว้าชัยเหนือ "ทอฟฟี่" เอฟเวอร์ตัน 1-0 ในเกมลีกนัดเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ที่กูดิสัน พาร์ค เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
เกมนี้ สเตอร์ริดจ์ มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง ก่อนถูกส่งลงสนามในช่วงท้ายเกม และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 94 เขาก็เป็นคนยิงไปชนเสา ก่อนที่ ซาดิโอ มาเน่ จะตามเข้าไปซ้ำบอลที่กระดอนออกมาเป็นประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล และล่าสุด คล็อปป์ ก็ออกมากล่าวชื่นชมหัวหอกทีมชาติอังกฤษ อย่างเต็มที่
"มันเป็นแบบนี้ คุณมี แดเนียล สเตอร์ริดจ์ บนม้านั่งสำรอง คุณย่อมคิดว่า "โอเค เมื่อไหร่จะถึงเวลา เมื่อไหร่ที่เราจะส่งเขาลงสนาม? เขาพร้อมหรือยัง?" เพราะมันไม่บ่อยนักที่หลังจากการการฝึกซ้อม 2 ช่วง นักเตะจะสามารถช่วยคุณได้จริงๆ แต่เขาช่วยเราได้มากในคืนนี้ในเกมที่ยากลำบากมาก"
"เขาสามารถสร้างความแตกต่างได้ในจังหวะแบบนี้ แต่มันก็สำคัญมากๆ สำหรับเรา...ซึ่งผมไม่อยากที่จะแสดงความไม่เคารพ ดังนั้น อย่าเข้าใจผิด แต่ในครึ่งแรกเราพูดว่า "โอเค ตอนนี้เรากำลังวอร์มอยู่" เพราะมันไม่ได้ตึงเครียดเกินไปนักสำหรับเราและพวกเขาก็ต้องทำงานกันอย่างหนัก"
"ด้วยเหตุนี้ ในช่วงครึ่งหลังพวกเขาถึงรู้สึกอ่อนล้า และเมื่อ แดนนี่ ถูกส่งลงสนามหลังจากผ่าน 70 นาทีไปแล้ว ซึ่งมันเป็นเกมที่ตึงเครียดและจำเป็นที่จะต้องส่งนักเตะที่สดๆ ลงไปในช่วงเวลานั้น นั่นเป็นสิ่งดีที่ควรทำ" กุนซือชาวเยอรมัน กล่าว
นอกจากนี้ คล็อปป์ ยังเชื่อว่า เอฟเวอร์ตัน สมควรที่จะเหลือนักเตะเพียง 10 คนในสนามในช่วง 20 นาทีสุดท้าย หลัง รอสส์ บาร์คลีย์ กองกลางดาวรุ่ง เข้าเสียบสกัดใส่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม "หงส์แดง" อย่างน่าเกลียด และผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน แจกเพียงแค่ใบเหลืองเท่านั้น
"ผมมองว่ามันเป็นการเข้าสกัดที่รุนแรงมากๆ แต่คุณก็เห็นกันแล้ว ดังนั้น ผมจึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกในเรื่องนี้ ผมคิดว่า รอสส์ โชคดีและ เฮนโด้ ก็โชคดีเช่นกัน ซึ่งมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากนั้น" อดีตนายใหญ่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าว