
สโมสรลิเวอร์พูลยืนยันการแต่งตั้งสตีเวน เจอร์ราร์ด เป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยู-18 ก่อนฤดูกาล 2017-18 จะเริ่มขึ้น
อดีตตำนานลิเวอร์พูล วัย 36 ปี จะรับตำแหน่งในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยเขากลับมายังสโมสรลิเวอร์พูล เพื่อรับตำแหน่งโค้ชที่อะคาเดมีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากแขวนสตั๊ดไปเมื่อปีที่แล้ว
เจอร์ราร์ดจะมาทำหน้าที่แทนนีล คริตชลีย์ ที่จะรับหน้าที่คุมทีมลิเวอร์พูล ยู-23 ส่วนไมค์ การ์ริตี ผู้จัดการทีม ยู-23 คนปัจจุบัน จะทำหน้าที่แบ็กรูม สต๊าฟฟ์ ให้กับคริชลีย์ ในฤดูกาลหน้า
เจอร์ราร์ดกล่าวว่า จนถึงตอนนี้ ผมสนุกกับช่วงเวลาที่อะคาเดมีอย่างมาก และรู้สึกว่าผมได้เรียนรู้จากเหล่าโค้ชที่นี่อย่างมาก หลังจากที่ได้คุยกับอเล็กซ์ (อิงเกิลโธร์ป) เราต่างรู้สึกว่า นี่ถึงเวลาที่ผมจะก้าวขึ้นมา และจัดการทีมของผมเอง
นีลทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับทีมยู-18 ดังนั้น ผมจึงหวังว่าผมจะสานงานต่อจากจุดที่เขาได้ทิ้งไว้ โดยให้กำลังใจ และฟูมฟักเหล่านักเตะให้พร้อมขึ้นไปสู่ทีมยู-23 และทีมชุดใหญ่ในที่สุด
การเดินทางในครั้งนี้ นับเป็นเรื่องราวบทใหม่ของสตีเวน เจอร์ราร์ด และสโมสรลิเวอร์พูล ที่กินเวลายาวนานถึง 17 ปี
หลังจากแขวนสตั๊ด กับอาชีพที่รุ่งโรจน์ โดยลงเล่นไป 710 เกม ทำไป 186 ประตู และคว้าแชมป์รวม 10 ถ้วย รวมทั้งช่วงเวลาต่างๆ ที่น่าจดจำมากมาย เขาได้กลับมาในที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง ที่อะคาเดมีของสโมสรลิเวอร์พูล เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เจอร์ราร์ดได้ทำงานในหลากหลายหน้าที่ภายในศูนย์ฝึกเยาวชน โดยทำงานในส่วนการพัฒนาความเป็นมืออาชีพของเหล่านักเตะเยาวชน และมอบคำแนะนำ และการชี้แนะต่างๆ ซึ่งล้วนมาจากประสบการณ์การค้าแข้งอันน่าทึ่งของเขา
อเล็ก อิงเกิลโธร์ป ผู้อำนวยการอะคาเดมี กล่าวว่า สตีเวนได้นำประสบการณ์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวมทั้งความรู้ต่างๆ มาสู่อะคาเดมี นับตั้งเข้ามาร่วมงานที่นี่ โดยได้มอบคำแนะนำอันยอดเยี่ยมต่างๆ และการชี้แนะแก่เหล่านักเตะรุ่นเยาว์ของเรา เราต่างรู้สึกว่า นี่เป็นเวลาที่สมบูรณ์แบบสำหรับเขา ในการก้าวสู่ขั้นตอนต่อไปในอาชีพโค้ช และได้บริหารจัดการทีมของตัวเอง
ไม่สงสัยเลยว่า นักเตะยู-18 จะได้เรียนรู้จากการที่มีคนอย่างสตีเวนคุมทีม และเราไม่สงสัยเลยว่า เขาจะประสบความสำเร็จอย่างมากในตำแหน่งนี้
การเปลี่ยนไปคุมทีมยู-23 ของคริตชลีย์ เกิดขึ้นหลังจากคุมทีม ยู-18 มาเป็นระยะเวลา 4 ปี โดยมีนักเตะอย่างเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เบน วู้ดเบิร์น และโอวี เอจาเรีย ที่พัฒนาจากระดับเยาวชน สู่ทีมชุดใหญ่
อิงเกิลโธร์ปเสริมว่า นี่ยังเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับนีลในการก้าวขึ้นไปอีกขั้นเช่นกัน และได้จัดการทีมระดับยู-3 เขาทำงานกับทีมยู-18 ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากมาร่วมงานกับเราในปี 2013 และผมมั่นใจว่า เขาจะช่วยในการพัฒนานักเตะต่างๆ เพื่อก้าวสู่ระดับทีมชุดใหญ่