สโมสรลิเวอร์พูล ประกาศยืนยันในวันนี้ว่าทีมชุดใหญ่จะเดินทางไปฮ่องกง เพื่อลงเล่นในรายการพรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ ช่วงซัมเมอร์นี้
การจัดการแข่งขันครั้งที่ 8 ของรายการนี้จะเกิดขึ้นที่ฮ่องกง สเตเดียม ในวันพุธที่ 19 กรกฎาคม และวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคมนี้

หงส์แดงจะลงเล่นรายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ร่วมกับคริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ และเวสต์บรอม โดยจะเป็นการร่วมรายการนี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ลิเวอร์พูลลงเล่นในปี 2007

เจอร์เก้น คล็อปป์ กล่าวว่า “เราตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะลงเล่นในพรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ ในช่วงซัมเมอร์นี้ มันเป็นเรื่องสำคัญที่สโมสรจะมีส่วนในการแข่งขันแบบนี้ ที่จะให้แฟนบอลท้องถิ่นได้มีโอกาสชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิด”

“สโมสรมีฐานแฟนบอลขนาดใหญ่ในฮ่องกง และเราหวังว่าจะโชว์ฟอร์มให้ดีเพื่อแฟนบอลของเรา”

พรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ คือรายการที่ฟุตบอลลีกแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นมีต่อแฟนบอลในเอเชีย และให้การสนับสนุนพัฒนาการของฟุตบอลในทุกระดับในฮ่องกง และทั่วพื้นที่ดังกล่าว

โปรแกรมการฝึกสอน และกิจกรรมการกุศล รวมทั้งโปรแกรมการฝึกสอน ‘Premier Skill’ จะมีการดำเนินการร่วมกับสมาคมฟุตบอลฮ่องกงระหว่างทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว

สำหรับตั๋วชมเกมสำหรับแฟนบอลจะมีการประกาศในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งจะมีจำหน่ายในวันแข่งขัน (19 ก.ค. และ 22 ก.ค.) โดยสามารถใช้บัตรเข้าชมการแข่งขันทั้งสองเกมในแต่ละวัน

ริชาร์ด สกูดามอร์ ประธานบริหารของพรีเมียร์ลีกกล่าวว่า “เราตื่นเต้นที่จะได้กลับไปยังฮ่องกงในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อแข่งขันพรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ เรารู้ดีจากการมาเยือนก่อนหน้านี้ว่าแฟนบอลในฮ่องกง และทั่วภูมิภาคดังกล่าวมีกองเชียร์ที่คลั่งไคล้สโมสรของเรา”

“คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และเวสต์บรอม เป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยม รวมถึงเหล่านักเตะ และผู้จัดการทีมที่จะช่วยให้แฟนบอลท้องถิ่นได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก

มาร์ก ซัตคลิฟฟ์ กรรมการผู้จัดการของสมาคมฟุตบอลฮ่องกงกล่าวเสริมว่า “สมาคมฟุตบอลฮ่องกงมีความยินดี และเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับ 4 สโมสรพรีเมียร์ลีกในเดือนกรกฎาคมสำหรับเกมพรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ 2017 ความคลั่งไคล้ และสนใจพรีเมียร์ลีกในฮ่องกงมีสูงมาก และโอกาสที่จะได้ชมนักเตะระดับเวิลด์ คลาสสดๆ จะเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวังจะได้ชม”

“ในฐานะผู้ร่วมจัดงานในครั้งนี้ สมาคมฟุตบอลฮ่องกงจะทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าจะเป็นการแข่งขันเอเชีย โทรฟี่ที่ดีที่สุด กับสองวันแข่งขัน และกิจกรรมหลากหลายเพื่อการมีส่วนร่วมกับชุมชน มีการรอคอยหลายสิ่งหลายอย่าง และโดยส่วนตัวผมแทบจะรอไม่ไหว”

ผู้เขียน จินตะปัญญา อะตะมะ